วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2559

เครื่องดนตรีไทยประเภทดีด

               คือเครื่องดนตรีประเภทที่มีสาย ตั้งแต่สายเดียวจนถึง 7 สาย เกิดเสียงได้โดยการดีดด้วยมือข้างหนึ่ง และมืออีกข้างหนึ่งกดสายตามเสียงที่ต้องการ ลักษณะของเครื่องดนตรีประเภทนี้ประกอบด้วยส่วนที่เป็นกระพุ้ง บางทีก็เรียกว่า กะโหลก" เพื่อสำหรับทำให้เสียงที่ดีดดังก้องกังวาน มีคันทวน ลูกบิด สะพานหนู หรือนม เป็นส่วนประกอบที่ทำให้เกิดเสียง แต่เดิมเครื่องดนตรีที่มีสายใช้ดีด เราเรียกตามบาลีและ สันสฤกษว่า พีณ ต่อมาบัญญัตชื่อเรียกใหม่ตามรูปร่าง ตามวัสดุ หรือตามภาษาของชาตินั้นๆ เช่น กระจับปี่ พิณน้ำเต้า พิณเพี๊ยะ และจะเข้ เป็นต้น

กระจับปี่





  กระจับปี่  เป็นพิณชนิดหนึ่ง มี ๔ สายกระพุ้งพิณมีลักษณะ เป็นกล่องแบน
รูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูมุมมน ด้านหน้าทำเป็นช่องให้เสียงกังวาน
ทวนทำเป็นก้านเรียวยาวและกลมกลึงปลายแบน และงอนโค้งไปด้านหลัง
ตรงปลายทวนมีลิ่มสลักเป็นลูกบิดไม้สำหรับขึ้นสาย ๔ ลูก สายส่วนมากทำด้วยสายเอ็น
หรือลวดทองเหลืองตลอดแนวทวนด้านหน้าทำเป็น สะพานหรือ นม ปักทำด้วยไม้
เขาสัตว์หรือกระดูกสัตว์สำหรับหมุนสายมี ๑๑ นมบนหน้ากระพุ้งพิณมีชิ้นไม้หรือชิ้นโลหะ
รองสายไว้เรียกว่า หย่องทำหน้าที่ถ่ายทอดแรงสะเทือน จากการดีดสายลงมาสู่
ตัวกระพุ้งพิณเวลาบรรเลงใช้นิ้วจับไม้ดีดเขี่ยสาย เพื่อให้เกิดเสียง ไม้ดีดปักทำด้วยงาช้าง
เขาสัตว์ หรือวัสดุที่มีลักษณะ แบนและบางกระจับปี่พัฒนามาจากเครื่องดนตรี
ประเภทหนึ่งของอินเดียมีต้นกำเนิดจากการดีดสายธนู ตามหลักฐานพบว่า
กระจับปี่มีมาตั้งแต่ สมัยสุโขทัย


จะเข้



   จะเข้  สัณนิษฐานว่า ได้รับอิทธิพลจากมอญ เดิมทำเป็น รูปร่างเหมือน จระเข้
ไทยใช้จะเข้มาตั้งแต่สมัยอยุธยา และคงเล่นอย่างบรรเลงเดียว ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ
พระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้นำจะเข้เข้ามาผสมแทนกระจับปี่เพราะเสียงดีกว่าและดีดได้
สะดวกกว่าจะเข้เป็นเครื่องดนตรีที่วางดีดตามแนวนอนทำด้วยไม้ท่อนขุดเป็นโพรงอยู่ภายใน
นิยมใช้ไม้แก่นขนุนเพราะให้เสียงกังวาลดีด้านล่างเป็นพื้นไม้ ซึ่งมักใช้ไม้ฉำฉา
เจาะรูไว้ให้เสียงออกดีขึ้น มีขาอยู่ตอนหัว๔ ขา ตอนท้าย ๑ ขา มีสาย ๓ สาย คือ สายเอก(เสียงสูง)
สายกลาง(เสียงทุ้ม) ทั้งสองสายนี้ทำด้วยเอ็นหรือไหมฟั่นเป็นเกลียวสายที่สามเรียก สายลวด(เสียงต่ำ)
ทำด้วยลวดทองเหลืองทั้งสามสายนี้ขึงจากหลักตอนหัวผ่าน โต๊ะ (กล่องทองเหลืองกลวง)
ไปพาดกับหย่องแล้วสอดลงไปพันกันด้านลูกบิด(ปักทำด้วยไม้หรืองา) สายละลูกโต๊ะนี้
ทำหน้าที่ขยายเสียงของจะเข้ให้คมชัดขึ้นระหว่างราง ด้านบนกับสายจะเข้จะมีชิ้นไม้เล็ก ๆ
ทำเป็นสันหนาเรียกว่า นม๑๑ นม วางเรียงไปตามแนวยาว
เพื่อรองรับการกด จากนิ้วมือขณะบรรเลง นมเหล่านี้มีขนาดสูงต่ำลดหลั่นกันไป
ทำให้เกิดเสียงสูง-ต่ำ เวลาดีดพิณน้ำเต้า จะใช้ไม้ดีดที่ทำด้วยงาหรือเขาสัตว์ กลึงเป็นท่อนกลม
ปลายเรียวแหลมมน ดีดปัดสายไปมา ไม้ดีดนี้จะพันติดกับนิ้วชี้มือขวาส่วนมือซ้ายใช้
กดนิ้วบนสายถัดจากนม ไปทางซ้ายเล็กน้อยเพื่อให้เกิดเสียงสูงต่ำตามที่ต้องการ


พิณน้ำเต้า



  พิณน้ำเต้า   สันนิษฐานว่า พิณมีกำเนิดในประเทศ ทางตะวันออก พิณโบราณเรียนพิณน้ำเต้า
ซึ่งมีลักษณะเป็น พิณสายเดี่ยว สันนิษฐานว่าชาวอินเดียนำมาแพร่หลายในดินแดนสุวรรณภูมิ
การที่เรียกว่าพิณน้ำเต้า เพราะใช้ เปลือกผลน้ำเต้ามาทำคันพิณที่เรียกว่า ทวน ทำด้วยไม้เหลา
ให้ปลายข้างหนึ่งเรียวงอนโค้งขึ้นสำหรับผูกสาย ที่โคนทวน เจาะรูแล้วเอาไม้มาเหลาทำลูกบิด
สำหรับบิดให้สายตึงหรือหย่อน เพื่อให้เสียงสูงต่ำสายพิณมีสายเดียวเดิมทำด้วยเส้นหวาย
ต่อมาใช้เส้นไหมและใช้ลวดทองเหลืองในปัจจุบันการดีดพิณน้ำเต้า  ปกติผู้ดีดจะไม่สวมเสื้อ
ใช้มือซ้ายจับทวนเอากะโหลกพิณประกบติดกับเนื้อที่อกเบื้องซ้าย ใช้มือขวาดีดสายขยับ
กะโหลกปิดเปิดที่ทรวงอกเพื่อให้เกิดเสียงก้องกังวานตามที่ต้องการใช้นิ้วมือซ้ายช่วยกดหรือเผยอ
เพื่อให้สายตึงหย่อน การดีด เป็นต้น



1 ความคิดเห็น: